ก.ล.ต. ตอกย้ำ การดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ผนึกองค์การสหประชาชาติ และ PRI จัดอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ผลักดันการนำ ESG มาประยุกต์ใช้กับแผนและกระบวนการทำงาน
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ (UN) และ Principles for Responsible Investment (PRI) จัดงานสัมมนาออนไลน์ ในหัวข้อ “Responsible Investment in Practice: Implementing ESG Incorporation in Listed Equity and Fixed Income” เพื่อให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับหลักการลงทุนที่รับผิดชอบ และการผนวกปัจจัยด้าน ESG เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจและกระบวนการทำงาน (ESG integration) เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถนำหลักการไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสม
การจัดอบรมดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกหนึ่ง ที่ผลักดันให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของ UN ผ่านการทำงานร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจจัดการลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม (ESG) และการลงทุนที่สอดคล้องตามแนวทางของ SDGs โดยมีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจาก PRI และผู้ประกอบธุรกิจจัดการลงทุนจากต่างประเทศที่เป็นผู้ร่วมลงนามในหลักการลงทุนที่รับผิดชอบ (PRI signatories) มาแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนที่รับผิดชอบ โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 300 คน
ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และเป้าหมายของ UN SDGs โดยสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจจัดการลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องในด้าน ESG integration เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและสามารถนำหลักการลงทุนที่รับผิดชอบที่พัฒนาขึ้น
นางกีต้า ซับบระวาล (Mrs.Gita Sabharwal) ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดทุนมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย และจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกมีความกังวลต่อความยั่งยืนในระยะยาวมากขึ้นเรื่อย ๆ การลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบบนพื้นฐานการให้ความสำคัญต่อประเด็นด้าน ESG จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
หลักการลงทุนที่รับผิดชอบที่จัดทำโดย PRI ควรได้รับการสนับสนุนในประเทศไทย และการลงทุนตามหลักการดังกล่าวควรมาจากผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ อนึ่ง นอกเหนือจากการลงทุนที่สอดคล้องกับหลัก BCG และกรอบนโยบายอื่น ๆ แล้ว ผู้ลงทุนสถาบันที่เป็นแบบอย่างดีในตลาดทุนสามารถสร้างแรงผลักดันในกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ที่มีจุดมุ่งหมายให้เกิดการรวมความหลากหลายของกลุ่มคน ความเสมอภาค และความโปร่งใส
ขั้นตอนสำคัญในการมุ่งสู่ทิศทางดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วในงาน Sustainable Thailand Forum โดยมีการรวมพลังผู้ลงทุนสถาบันและธนาคารรวม 43 หน่วยงาน ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ร่วมลงนามประกาศเจตจำนงในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ บนหลักการลงทุนแห่งความยั่งยืนที่ตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ และการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ
นายเจมส์ โรเบิร์ตสัน (Mr. James Robertson) Head of Asia (ex-China & Japan), PRI กล่าวว่า หลักการลงทุนที่รับผิดชอบที่พัฒนาโดย PRI ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันและบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้มีการนำแนวทางการลงทุนที่ผนวกปัจจัยด้านความยั่งยืน เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ สิทธิมนุษยชน เป็นต้น ไปประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ
